จากผลการสำรวจปรากฎว่าคนไทย 1 ใน 18 คนที่อาศัยอยู่ในรัฐวิคตอเรียเป็นโรคไวรัสตับอักเสบBหรือCแบบเรื้อรังและที่น่าวิตกกังวลมากที่สุดก็คือว่าคนจำนวนมากที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบBหรือCนั้นไม่ทราบว่าตัวเองเป็นโรคนี้
โรคนี้มักจะไม่แสดงอาการใด ๆ แต่อาจนำไปสู่ความเสียหายของตับและอาจพัฒนากลายเป็นมะเร็งในตับได้หากไม่ได้รับการรักษา
“ปกป้องตัวเองและครอบครัวของคุณ โดยปรึกษาแพทย์ของคุณเพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบBและ/หรือCวันนี้”
โรคไวรัสตับอักเสบคืออะไร
โรคไวรัสตับอักเสบหมายถึงการอักเสบของตับที่เป็นผลมาจากการติดเชื้อไวรัส โรคไวรัสตับอักเสบBหรือ C สองชนิดนี้เป็นเชื้อที่พบบ่อยที่ทำให้เกิดการผลกระทบต่อตับ
ผู้ที่ติดเชื้อไวรัสตับอักเสบBหรือCเป็นเวลานานกว่า 6 เดือนจะเรียกว่าเป็นโรคไวรัสตับอักเสบแบบ “เรื้อรัง” (เรื้อรังหมายถึงการเป็นโรคระยะยาว, ในที่นี้คือมากกว่า 6 เดือนขึ้นไป)
บางคนอาจไม่รู้สึกเจ็บป่วยและอาจรู้สึกปกติธรรมดาแต่อย่างไรก็ตามหากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการตรวจสอบหรือไม่ได้รับการรักษาอาจจะเป็นอันตรายต่อตับเช่น:
- เกิดอาการตับบวม
- เกิดแผลเป็นที่ตับ
- อาจพัฒนาไปสู่การเป็นมะเร็งในตับ (การมีเนื้องอกเจริญเติบโตในตับ)
แล้วจะทำการตรวจสอบได้อย่างไร
คนที่เกิดในประเทศไทยและครอบครัวของพวกเขาควรได้รับการตรวจเชื้อไวรัสตับอักเสบBและเชื้อไวรัสตับอักเสบCไม่ว่าจะอาศัยอยู่ในประเทศออสเตรเลียมานานเท่าไรแล้วก็ตามเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณจะต้องปรึกษาแพทย์เพื่อรับการตรวจเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบทั้ง2 ชนิดนี้
การตรวจเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบมักจะไม่รวมอยู่ในรายการการตรวจสุขภาพที่คุณถูกกำหนดให้ตรวจเมื่อต้องการย้ายถิ่นฐานมาอยู่ประเทศออสเตรเลียและไม่รวมอยู่ในหัวข้อการตรวจสุขภาพประจำปีของแพทย์ด้วย นี่คือเหตุผลว่าทำไมจึงเป็นเรื่องสำคัญมากที่คุณต้องปรึกษาแพทย์ของคุณด้วยตัวคุณเอง
ปรึกษาแพทย์ของคุณเพื่อรับการตรวจเลือดเพื่อหาเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบ B และ C แบบง่ายๆ การตรวจแบบง่าย นี้ มักจะไม่เสียค่าใช้จ่าย
การตรวจเลือดแบบง่ายนี้สามารถบอกคุณได้ว่า:
- คุณมีเชื้อไวรัสตับอักเสบBหรือCหรือไม่
- คุณจำเป็นต้องฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบBหรือไม่
- คุณเคยได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบBมาในอดีตแล้วคุณยังมีภูมิคุ้มกันอยู่อีกหรือไม่
อย่างไรก็ตามถ้าผลการตรวจเลือดพบว่าคุณไม่มีเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบBก็ขอแนะนำว่าคุณควรรับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันตัวคุณและครอบครัวจากเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบB(โดยปกติ, สำหรับคนส่วนใหญ่การฉีดวัคซีนป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบBนั้นไม่เสียค่าใช้จ่าย)
วิธีการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบ B และ C ทำอย่างไร
ผู้ที่เป็นโรคไวรัสตับอักเสบBเรื้อรังก็สามารถมีชีวิตที่ดีและมีสุขภาพที่ดีได้ โดยการตรวจหาเชื้อไวรัสเป็นประจำทุก ๆ 6เดือนและถ้าพบว่ามีความจำเป็นก็รักษาโดยการกินยาซึ่งวิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้ไวรัสทำลายตับและพัฒนาไปสู่การเป็นมะเร็งในตับได้การรักษา(โดยการกินยา)สามารถช่วยควบคุมเชื้อไวรัสBไว้ได้ แต่จะไม่เป็นการรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นคนที่มีเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบBอาจไม่จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยการกินยาทุกคนแต่จำเป็นมากที่ทุกคนที่มีเชื้อโรคไวรัสตับBต้องได้รับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ
คุณได้รับเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบ B หรือ C ได้อย่างไร
หลายประเทศทั่วโลกมีผู้คนจำนวนมากที่มีชีวิตอยู่กับโรคไวรัสตับอักเสบBและCแบบเรื้อรังดังนั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่คุณอาจจะได้รับเชื้อโรคนี้แบบรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวโดยโรคไวรัสตับอักเสบBนั้น สามารถ ติดต่อผ่านทางเลือดและของเหลวทางเพศส่วนโรคไวรัสตับอักเสบC ติดต่อผ่านทางเลือดเท่านั้น
เชื้อโรคไวรัสตับอักเสบ B แพร่กระจายอย่างไร
- จากแม่สู่ลูกในระหว่างการคลอดบุตร
- ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน
- โดยวิธีทางการแพทย์หรือทันตกรรมที่ไม่มีการฆ่าเชื้อ
- โคยการใช้อุปกรณ์ฉีดยาร่วมกัน
- โดยการรับเลือดที่ติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดด้วยวิธีอื่นๆ รวมถึงการสักที่ไม่ได้รับการป้องกันฆ่าเชื้ออย่างถูกสุขลักษณะ
เชื้อโรคไวรัสตับอักเสบ C แพร่กระจายอย่างไร
- จากแม่สู่ลูกในระหว่างการคลอดบุตร
- ผ่านการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่มีการป้องกัน โดยเฉพาะถ้ามีเลือดอยู่
- โดยวิธีทางการแพทย์หรือทันตกรรมที่ไม่มีการฆ่าเชื้อ
- โดยการใช้อุปกรณ์ฉีดยาร่วมกัน
- โดยการรับเลือดที่ติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือดด้วยวิธีอื่นๆ รวมถึงการสักที่ไม่ได้รับการป้องกันฆ่าเชื้ออย่างถูกสุขลักษณะ
เชื้อโรคไวรัสตับอักเสบ B หรือ C ไม่ สามารถแพร่กระจายได้โดย:
- การแบ่งปันอาหารเครื่องดื่มหรือการใช้แก้วจานชามช้อน ส้อม หรือมีดร่วมกัน
- การสัมผัสกอดหรือจูบ
- การจับมือกัน
- การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
สามารถป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B และ C ได้อย่างไร
วิธีที่ง่ายสะดวกและปลอดภัยที่สุดในการป้องกันการติดเชื้อโรคไวรัสตับอักเสบBคือ การฉีด วัคซีนป้องกัน แต่การฉีดวัคซีนป้องกันจะไม่มีผลปกป้องคุ้มครองคุณถ้าคุณเป็นโรคไวรัสตับอักเสบBแบบเรื้อรังอยู่ก่อนแล้วดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการตรวจเชื้อไวรัสโรคตับอักเสบBก่อนที่จะทำการฉีดวัคซีนป้องกันให้
ส่วนโรคไวรัสตับอักเสบCสามารถป้องกันได้โดย หลีกเลี่ยงการสัมผัสแบบเลือดสู่เลือดเช่นไม่แบ่งปันอุปกรณ์ฉีดยาเป็นต้น
โรคไวรัสตับอักเสบ C นั้นสามารถรักษาให้หายขาดได้ การรักษาโรคไวรัสตับอักเสบCนั้นทำได้ง่ายและปลอดภัย คนส่วนใหญ่ที่ได้รับการักษาโดยการกินยาติดต่อกันเป็นเวลา8ถึง 12สัปดาห์ เกือบทุกคนจะหายขาดซึ่งหมายความว่าเชื้อไวรัสตับอักเสบCนั้นตายและหายไปจากร่างกายหมดแล้ว
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบ B
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโรคไวรัสตับอักเสบ C
ข้อมูลเพิ่มเติม
- ปรึกษากับแพทย์ของคุณ
- พูดสายคุยกับพยาบาลที่ Cancer Council Victoriaที่เบอร์ 13 11 20ถ้าต้องการล่าม ไทยโทรเบอร์ 13 14 50ก่อนและขอสาย Cancer Council Victoria
- ไปที่เว็ปไซด์ LiverWELLหรือโทรหา ฮอตไลน์ข้อมูลโรคไวรัสลงตับได้ที่หมายเลข 1800 703 003ถ้าต้องการล่าม ไทยโทร 13 14 50ก่อน
- สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ตลอดจนการสนับสนุนและคำแนะนำเรื่องการส่งตัวไปรักษาหรือเพื่อรับการรักษาโรคไวรัสตับอักเสบBและ/หรือCกรุณาโทรหาศูนย์ The Centre for Culture, Ethnicity and Healthที่หมายเลข 03 9418 9929
เราขอขอบคุณชุมชนคนไทยในเมลเบิร์นสำหรับความเชี่ยวชาญการให้ความร่วมมือและคำแนะนำที่มีค่าของพวกเขาตลอดโครงการนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ประสานงานด้านสุขภาพสองภาษาชาวไทยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และวิทยากรทุกท่านที่ทำงานกันอย่างอุทิศตนและทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจมาณที่นี้ด้วย